อัพเดต 5 เทรนด์ ที่ห้ามพลาดบน Facebook ปี 2020

สำหรับเทคนิคการตลาดวันนี้ Shoplus มาบอกต่อเทรนด์เฟสบุ๊คฉบับอัพเดทปี 2020 ล่าสุดที่บอกเลยว่าไม่ควรพลาด! ยิ่งถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดหน้าร้านออนไลน์บน Facebook แพลต์ฟอร์มอันดับหนึ่งในหลายๆด้าน นอกจากจะโปรโมทการขายให้ดีแล้ว การเข้าใจระบบและการจัดการของเฟสบุ๊คก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้มีผู้คนจากหลากหลายแบรนด์ เริ่มมาเปิดร้านค้าบนตลาดออนไลน์กันมากขึ้นหลายเท่าตัว การเข้าใจถึงเทคนิคและระบบการจัดการของเฟสบุ๊คก็จะช่วยให้ร้านของเรามีประสิทธิภาพและเพิ่มยอดขายได้นั้นเอง

1.ค่าโฆษณาของเฟสบุ๊คมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ

หากจะขายบนเฟสบุ๊คให้ดีแล้วเนี่ย การโฆษณาร้านนับเป็นเรื่องขั้นพื้นฐานที่หลายๆคนก็ได้เข้าใจหรือลองยิงโฆษณากันมาแล้ว แล้วรู้หรือไม่ว่าจากทั่วโลกมีบัญชีผู้ใช้งานโฆษณาบนเฟสบุ๊คกันหลายล้านคนเลย เพราะฉะนั้นจึงทำให้มีการแข่งขันไปจนถึงแง่ของการโฆษณาด้วย แม้ราคาของการโฆษณาบนเฟสบุ๊คนั้นจะไม่ได้แพงมาก ก็ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่า มันมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ นี้ก็เป็นผลเนื่องมาจากการแข่งขันกันสูงในวงการโปรโมทบนเฟสบุ๊คเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากร้านค้าของคุณจำเป็นต้องพึ่งพาการโปรโมทบนเฟสบุ๊คแล้วละก็ ควรปรัปแผน หรือรูปแบบการโปรโมท ให้ยิงโฆษณาได้ในราคาที่ถูกลง

โดยส่วนใหญ่แล้วนั้น หากคุณมีการโฆษณาบนเฟสบุ๊คแล้วสังเกตได้ว่าราคาในการโปรโมทมีราคาสูงขึ้น อาจจะเป็นเพราะมีผู้ขายรายใหม่ในแวดวงสินค้าเดียวกับคุณมากขึ้น คุณเลือกกลุ่มลูกค้าผิดไป บางแคมเปญของคุณไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร หรือไม่ได้ทำการทดสอบดูว่าเนื้อหาแบบไหนที่ดูสนใจมากกว่า และปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย หากราคายิงโฆษณาบนเฟสบุ๊คมีราคาสูงขึ้น คุณอาจจะต้องวางแผนผลกำไรใหม่ ให้มีความคุ้มค่ากับรายจ่ายด้วย 

2.โฟกัสกับการปรับรูปแบบเนื้อหาให้เข้ากับโทรศัพท์มาเป็นอันดับ 1

เกือบจะทั้งหมดของรายได้โฆษณาของเฟสบุ๊คมาจาก “Mobile advertising” หรือการโฆษณาบนมือถือ เพราะก็เป็นที่รู้กันว่า ผู้ใช้งานเกินครึ่งบนเฟสบุ๊คมีการใช้งานจากบนโทรศัพท์มือถือเยอะที่สุด หรือถ้าดูง่ายก็จะพบว่าคนส่วนใหญ่ ซื้อของ ดูข่าวสาร คุยกับเพื่อน ส่วนใหญ่ก็เน้นไปที่หน้าจอโทรศัพท์ซะมาก ทำไมมันถึงสำคัญ? เพราะว่าเนื้อหาที่คุณกำลังลงอยู่นั้น อาจจะไม่รองรับบนหน้าจอโทรศัพท์นะสิ! ทำให้ลูกค้าที่กำลังเลื่อนฟีดอาจจะเห็น หรือเลื่อนข้ามโพสต์ของคุณไปดื้อๆเลย ยุคสมัยนี้ หลายธุรกิจเริ่มมาโฟกัสกับ Mobile-first หรือเน้นให้รองรับ และดูสวยงามบนหน้าจอมือถือมาเป็นอันดับแรง โดยเฉพาะการโฆษณาบน Google หรือ Facebook นี้ยังรวมไปถึงขั้นตอนในการซื้อของต่างๆ หรือ customer journey ของคุณ ก็ควรวางแผนให้ครบจบภายในมือถือเครื่องเดียว

3.ระบบ Automatic, AI หรือ AR จะเริ่มแพร่หลายขึ้น

ระบบ AI ที่ทุกคนคงคุ้นเคยกันดีก็คงจะเป็นระบบ chatbot ที่คอยช่วยตอบลูกค้าอัตโนมัติ เช่น Shoplus กันใช่มั้ยละ แต่ Facebook ก็นับเป็นแพลตฟอร์มที่มีระบบ AI ช่วยในการจัดการหลายๆอย่าง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการช่วยคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการโฆษณาบนเฟสบุ๊ค หากคุณยังไม่เคยลองระบบช่วยคำนวณและวางแผนต้นทุนในการจ่ายค่าโฆษณา เช่น Campaign Budget Optimization หรือ ตัวช่วยในการจัดการงบประมาณของแคมเปญ ซึ่งจะทำงานอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาของคุณ ที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือเฟสบุ๊คปล่อยตัว “facebook augmented reality ads” หรือโฆษณาเสมือนจริง ที่แสนจะน่าดึงดูด สนุกสนาน ผู้ใช้งานสามารถร่วมเล่นสนุกไปกับโฆษณาของคุณได้ เพิ่มการมีส่วนร่วม ยกตัวอย่างเช่น หากคุณขายลิปสติก คุณสามารถทำฟิลเตอร์ให้ลูกค้าลองสีลิปสติกสีต่างๆของคุณได้ น่าสนใจสุดๆไปเลยใช่มั้ยละ!

นอกจากนั้น เฟสบุ๊คยังปล่อยฟีจเจอร์หลายๆอย่างสำหรับแคมเปญด้วย ให้ดูน่าตื่นเต้น และมีส่วนร่วมกับผู้ใช้งานมากขึ้น เช่น คนดูโฆษณาของคุณสามารถเลือกตัวเลือกต่างๆได้ว่า สนใจหรือไม่ อยากจะเลือกตัวเลือกไหน แล้วแต่คุณต้องการจะตั้งเลย หรือจะเป็นการใช้เกมส์ สร้างเกมส์สนุกๆในรูปแบบของแบรนด์คุณเอง เทรนด์เหล่านี้อาจจะเป็นอนาคต หรือรูปแบบใหม่ของการโฆษณาบนเฟสบุ๊คก็เป็นได้

4.เทรนด์ Facebook stories กำลังมาแรง

หากตอนนี้คุณยังยิงโฆษณาบนหน้าฟีดแบบเดิมๆละก็ ลองเปลี่ยนความคิดดูนะ เพราะว่าตอนนี้เทรนด์ที่น่าสนใจมาก นั้นก็คือ ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับ Facebook stories มากกว่าเพราะรู้สึกใกล้ชิดมากขึ้น และมีคนจำนวนมากที่ใช้งานฟีจเจอร์นี้ และแน่นอนว่าคุณสามารถยิงโฆษณาไปที่สตอรี่ได้เช่นกัน และจากการสำรวจพบว่า การโฆษณาบน facebook stories มีประสิทธิภาพมาก และลูกค้ามีความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีผลิตภัณฑ์จำพวกแอปฯ ยิ่งเหมาะมาก และเทคนิคดีๆสำหรับการโฆษณาในรูปแบบนี้คือ พยายามอย่าทำให้เหมือนโฆษณามากเกินไป เราพูดถึง การใช้กล้องถ่ายแบบโปรๆ ที่ใครๆมองแวบแรกก็รู้ว่าเป็นโฆษณา เพราะคนดูจะกดข้ามแบบรัวๆ เพราะฉะนั้น หากถ่ายออกมาให้ดูเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ คนดูก็จะเข้าถึงและสนใจมากกว่า เนื้อหาก็เป็นส่วนสำคัญ ควรทำเนื้อหาให้เข้ากับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพราะจากการศึกษาพบว่า มากกว่า 50% ต้องการเนื้อหาที่รวดเร็ว เข้าใจง่าย เน้นให้ความรู้ เคล็ดลับต่างๆ

5.เนื้อหาแบบวิดิโอ ยังเป็นที่หนึ่ง เรื่องดึงดูดความสนใจลูกค้า

ของมันแน่อยู่แล้วว่า การโฆษณาแบบวิดิโอ ยังคงสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้เป็นอันดับหนึ่ง ในทุกวันๆมีวิดิโอถูกดูบนเฟสบุ๊คมากกว่า แปดร้อยล้านคลิปกันเลยทีเดียว! และแน่นอนว่าวิดิโอส่วนใหญ่ที่เป็นที่น่าสนใจนั้น จะถูกปรับรูปแบบมาให้เข้ากับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ และสถิติที่น่าสนใจมากๆก็คือ คนส่วนใหญ่มักเช็คเฟสบุ๊คระหว่างทางกลับบ้าน บนรถ หรือระหว่างมื้ออาหาร เพราะฉะนั้นจึงมักจะดูคลิปแบบไม่มีเสียง ดังนั้นหาก โฆษณาหรือวิดิโอคลิปของคุณมีเนื้อหาที่ต้องเน้นการบรรยาย หรือคำพูดและ คุณไม่อยากถูกกด skip คลิปของคุณไป ก้ควรจะมีคำบรรยายหรือซับไตเติ้ลนั้นเอง และรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ เฟสบุ๊คมี “Video poll” หรือแบบสอบถาม โดยคุณสามารถตั้งคำถามและตั้งคำตอบไว้ 2-4 คำตอบ โดยเฟสบุ๊คก็ให้เทคนิคดีๆ สำหรับตั้งคำถามให้น่าสนใจ เช่น คำถามที่ต้องมีคำตอบได้หลากหลาย คำถามไม่ควรยาวเกินไป ไม่ควรสั่งให้คนดูกดไลค์ พิมคอมเมนต์ต่างๆ และคำถามจะต้องสุภาพด้วยค่ะ

การอัพเดตเทรนด์การตลาดนับเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยนะคะ สำหรับการขายของออนไลน์ เพราะหากเราเข้าใจและตามทันตลาดและเทคโนโลยี เราก็มีโอกาสในการพัฒนาร้านค้าของเราต่อได้เรื่อยๆ และ  Shoplus นอกจากจะมีระบบจัดการร้านค้าราคาสุดคุ้มมาดูแลเพจให้กับคุณแล้ว  เรายังพร้อมจะอัพเดตเทรนด์ใหม่ล่าสุด ด้านการตลาด e-commerce หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้กับคุณเสมอ ทุกวันจันทร์ ที่ Shoplus Blog ! หากต้องการติดตามข่าวสารแบบไม่ตกเทรนด์การตลาดใหม่ๆ แอดไลน์ได้เลย @shoplusth หรือคลิก https://lin.ee/7Ok9lF9

ไม่อยากพลาดสาระดีๆ
ติดตามข่าวสาร E-commerce ก่อนใครได้ฟรี! จาก E-mail inbox


ShopPay Mall