
รู้ก่อนปังก่อน! Personalized Marketing เทรนด์การตลาดมาแรงปี 2020
“ลูกค้าคือพระเจ้า ”วลีฮิตติดปากที่เราได้ยินกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรสำหรับคนที่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าหรือบริการ ร้านค้าหรือแบรนด์หลายๆแบรนด์จึงต้องหาวิธีการสื่อสารมาเพื่อเอาใจลูกค้า วันนี้เราเลยมีการตลาดแบบใหม่ ที่กำลังมาแรงในปี 2020 นั่นก็คือ Personalized Marketing หรือ การตลาดแบบเอาใจลูกค้า ที่ถือว่าเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำการตลาด จะเป็นยังไงบ้าง ไปดูกันเลย!
Personalized Marketing คืออะไร?
Personalized Marketing หรือที่เรียกว่า One-to-one marketing, Individual marketing แปลเป็นไทยได้ว่า “การตลาดแบบเอาใจผู้บริโภค” เป็นรูปแบบการทำการตลาดที่มาแรงมากๆ ในยุคนี้ ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยแบรนด์จะทำการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าแต่ละคน และทำการสื่อสารไปยังลูกค้าตามข้อมูลที่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้บริโภคแต่ละคน ซึ่งวิธีแบบนี้ก็เป็นวิธีที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่การเริ่มสั่งสินค้าจนกระทั่งปิดการขายได้เลยทีเดียว!

และสาเหตุที่ทำให้ Personalized Marketing ถือเป็นวิธีการที่มาแรงและได้ผลดีก็เป็นเพราะว่าผู้บริโภคเริ่มที่จะรู้ทันการตลาดแบบเดิมๆ (Traditional Marketing) แล้วไม่ว่าจะเป็นการโทรขายตรง, โฆษณาบนโทรทัศน์, วิทยุ ที่นอกจากจะดูเป็นการขายตรงๆแล้ว ยังดูเป็นการขายที่ไม่ได้ให้ความใส่ใจผู้บริโภคขนาดนั้นอีกด้วย ซึ่งการตลาดแบบเก่าๆ ที่จู่โจมผู้บริโภคจนเกินไปก็อาจจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อแบรนด์ได้อีกด้วยนะ!
จากการสำรวจผู้บริโภค 1,000 คน โดย Epsilon พบว่า ผู้บริโภค 80% เลือกที่จะซื้อสินค้า/บริการจากแบรนด์ที่มีการให้บริการแบบเป็นรายบุคคล (Personalized) และ 90% บอกว่าการทำการทำการตลาดแบบ Personalized ทำให้แบรนด์ดูมีมูลค้ามากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของ Personalized Marketing
ลูกค้าได้รับข้อความที่โดนใจมากขึ้น
อันที่จริงแล้วผู้บริโภคไม่ได้เกลียดการโฆษณา แต่เกลียดการโฆษณาที่ไม่เนียนต่างหาก! คำโฆษณาบางคำที่ดูเป็นการจั่วหัวมั่วๆ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าโฆษณานี้หรือสินค้าชิ้นนี้ไม่ได้ถูกผลิตมาเพื่อพวกเขา จึงไม่ได้รับการตอบรับที่ดีเท่าไหร่จากผู้บริโภคนั่นเอง การใช้คำโฆษณาการสื่อสารว่าเป็นการส่งให้ลูกค้าคนใดคนหนึ่งโดยตรง จึงได้รับผลตอบรับที่ดีกว่าการโฆษณาแบบไม่เจาะจงว่าสื่อสารให้ใครนั่นเอง
ช่วยเตือนความจำลูกค้าให้กลับมาซื้อ
การ Remarketing หรือการทำการตลาดเพื่อย้ำความสนใจ ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการทำ Personalized Marketing ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเก็บข้อมูลการใช้งานอินเตอร์เน็ตของลูกค้า และทำการแสดงโฆษณาไปยังลูกค้าที่เคยเข้ามาดูเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งเพจของร้านค้า เหมือนเป็นการเตือนความจำให้ลูกค้า ให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น
ลูกค้าได้รับคำแนะนำที่ดียิ่งขึ้น!
นอกจากจะได้รับการเตือนความจำในการสั่งซื้อสินค้าแล้ว ยังจะได้เห็นสินค้าแนะนำอื่นๆ ที่ลูกค้าน่าจะสนใจอีกด้วย ซึ่งก็จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับเรา และสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าออนไลน์ให้กับลูกค้าได้อีกด้วย
เทคนิคการ Personalize ให้ปัง!
ถ้าอยากจะสื่อสารกับลูกค้าให้ปังก็ต้องรู้ทริคการทำ Personalized Marketing สักหน่อย เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะสื่อสารกับลูกค้าได้ปังปุริเย่!
Data ต้องแน่น!
หัวใจสำคัญของการทำ Personalized Marketing คือ Big data ที่คอยเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภค เพราะข้อมูลเหล่านี้คือตัวแปรสำคัญที่จะบอกตัวตนของลูกค้าของเราว่าเป็นใคร มีความชื่นชอบแบบไหน มีพฤติกรรมการใช้งานแบบไหน ยิ่งข้อมูลเหล่านี้มีมาก เราก็จะยิ่งเห็นภาพชัดว่าเราควรที่จะสื่อสารไปหาลูกค้าในทิศทางไหน เพื่อให้การ Personalized ของเราเป๊ะปังนั่นเอง
จดจำการใช้งานของลูกค้าทุกย่างก้าว
ประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience) เป็นสิ่งสำคัญของการทำการตลาด และยังเป็นอีกหนึ่งตัวแปรหนึ่งที่ทำให้การ Personalize การสื่อสารเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นเราจึงควรที่จะจดจำการใช้งานของลูกค้าไว้ เช่น ถ้าลูกค้าเคยสั่งสินค้าผ่านทางโทรศัพท์มือถือไปแล้ว แต่กลับได้รับอีเมลให้สมัครใช้งาน หรือให้กลับมาซื้อสินค้าชิ้นนั้นบนคอมพิวเตอร์ ลูกค้าก็อาจจะเกิดการเข้าใจผิด และทำให้เกิดความรำคาญและความรู้สึกที่ไม่ดีต่อแบรนด์ก็ได้

เตรียมการสื่อสารให้เป๊ะปัง
ถ้าเรามีข้อมูลต่างๆของลูกค้าหมดแล้ว สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือการสื่อสาร ซึ่งเป็นการทำนายใจลูกค้า เช่นหากเราจะจองตั๋วเครื่องบินไปที่ไหนซักที่ สายการบินก็จะไม่ได้ขายแค่เพียงตั๋วเครื่องบิน แต่ก็จะเสนอบริการรถเช่า, ที่พัก รวมไปถึงประกันท่องเที่ยวอื่นๆ อีกด้วย นอกจากนี้ช่องทางการสื่อสารก็สำคัญ สังเหตให้ดีว่าลูกค้าของคุณชอบเปิดรับสื่อแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นบล็อก, โซเชียลมีเดีย, อีเมล, หรือพอดแคสต์ ลองดูว่าช่องทางไหนที่จะสื่อสารกับลูกค้าของคุณได้มีประสิทธิภาพที่สุด
การนำ Personalized Marketing มาใช้
Email marketing
Email Marketing หรือการส่งอีเมลให้ลูกค้าอาจจะดูเป็นวิธีการสื่อสารที่เก่าไปแล้ว แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน คุณสามารถเลือกแบ่งประเภทลูกค้าจากพฤติกรรมการใช้งาน และสื่อสารเป็นเนื้อหาที่แตกต่างกันไปตามการใช้งานหรือยอดสั่งซื้อสะสม เพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้านั่นเอง
Personalized campaign
การทำ Personalized Campaign ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับการทำ Personalized Marketing ไม่ว่าจะเป็นการจัดดีลพิเศษสำหรับลูกค้าที่มีการสั่งซื้อสินค้าบ่อย หรือลูกค้าที่มีแนวโน้มจะมีการญซื้อสินค้าจำนวนมากๆ หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งก็จะสามารถทำให้สื่อสารกับลูกค้าให้ตรงประเด็นมากกว่า ทำให้การลงทุนของคุณคุ้มค้ามากกว่านั่นเอง!

Chatbot
และสุดท้าย ที่เป็นตัวช่วยที่ทำให้หลายๆแบรนด์สื่อสารกับลูกค้าได้แบบตัวต่อตัว แถมยังเป๊ะเหมือนมีคนมานั่งตอบข้อความให้กับลูกค้าจริงๆ ก็คือ Chatbot นั่นเอง! โดยแชทบอทจะใช้เทคโนโลยี AI ตรวจจับคียเวิร์ดของลูกค้าและตอบข้อความกลับให้กับลูกค้าได้อย่างตรงประเด็น ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีและประทับใจในการซื้อสินค้าจากร้านของเรานั่นเองเรียกได้ว่าเจ้า Chatbot นี่เป็นทางเลือกที่ง่ายและสะดวกมากๆสำหรับร้านค้าออนไลน์เลยทีเดียว
ถ้ากำลังมองหา Chatbot ที่ช่วยตอบข้อความลูกค้าได้อย่างอัตโนมัติ รวดเร็วทันใจ Shoplus ช่วยคุณได้นะ! ด้วยระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ ด้วยเทคโนโลยี AI มี Chatbot ตอบกลับข้อความลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง ข้อมูลถูกต้องแม่นยำ รวมไปถึงฟีเจอร์อื่นๆที่ช่วยให้การขายสินค้าออนไลน์ของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น! ให้ Shoplus ช่วยดูแลร้านค้าของคุณสิ!
อย่าลืมแอด Line Official ของ Shoplus เพื่อติดตามข่าวสาร การตลาดออนไลน์ เทคนิคการขายของ และบทความดีๆอีกมากมาย ได้ก่อนใคร อัพเดทตลอดทุกอาทิตย์ หรือสอบถามโปรโมชั่นหากสนใจ ระบบ Shoplus ช่วยคุณจัดการร้านค้าอย่างมีประสิทธิภาพ แถมประหยัดเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ! ด้วยระบบ AI อัจฉริยะ จะไลฟ์ขายของ หรือโพสต์ขายของก็ไม่ปัญหา เก็บครบจบทุกออเดอร์ แถมมีทีมงานคอยช่วยเหลือแบบใกล้ชิด ทดลองใช้ฟรี 7 วัน! ได้ครบทุกฟีเจอร์ มาเปิดประสบการณ์และยกระดับเพจของคุณไปอีกขั้น มาเป็นครอบครัวเดียวกับ Shoplus กันนะ!