เรียนรู้ระบบพร้อม

เรียนรู้ระบบการใช้งานง่ายๆ

Painpoint ที่เราเห็นได้ชัดก็คือการจัดการระบบออเดอร์หลังบ้าน ที่หลายๆธุรกิจยังไม่มี หรือมีก็อาจจะจัดการได้น้อยมาก ด้วยเหตุนี้เอง shoplus จึงนำนวัตรกรรมที่เรียกว่า AI- เข้ามาช่วยจัดการด้านการจัดการออเดอร์

ฟีเจอร์โพสต์ขาย
กดแชร์โพสต์ในระบบ Shoplus เพื่อโพสต์ขายสินค้าในหน้า Facebook ได้ทันที และเมื่อลูกค้ากดที่ลิงก์สั่งซื้อ ระบบจะทักแชทไปหาลูกค้า ลูกค้าสามารถปิดการขายได้ด้วยตัวเอง

ระบบไลฟ์ดูดคอมเมนต์ + เปิดบิลใน Facebook 
เมื่อทำการไลฟ์สดระบบจะดูดคอมเมนต์ที่ CF สินค้าพร้อมส่งข้อความยืนยันไปหาลูกค้าอัตโนมัติ นอกจากนี้ร้านค้ายังสามารถแก้ไขหรือเปิดบิลได้บน Facebook ทันที

ระบบจัดการออเดอร์ เช็คสลิปปลอม 
Shoplus ได้แยกสถานะของออเดอร์ออกเป็น 4 สถานะเพื่อง่ายต่อการจัดการมากยิ่งขึ้น และยังมีระบบตรวจสลิปปลอมที่ช่วยร้านค้าเช็คสลิปที่ลูกค้าส่งมาอีกด้วย

การสร้างตัวตนจาก Facebook

ถ้าพูดถึงคำว่า social media ก็ต้องนึกถึง facebook, Instagram, twitter, Tiktok, Line และที่กำลังมาแรงในตอนนี้นั่นก็คือ Clubhouse นั่นเอง นิยามสั้นๆ ว่า social media ก็คือสื่อสังคมออนไลน์ ถ้าจะต้องเลือกสื่อที่ง่ายที่สุด แนะนำว่าให้เริ่มจาก Facebook เพราะเชื่อว่า Facebook เป็นสื่อที่ทุกคนเคยใช้ คุ้นเคย และรู้จักกับมันมานาน ไม่ว่าจะเป็น Facebook Fanpage และ Facebook Group แต่ละอย่างก็มีความสำคัญในการใช้งานและประโยชน์ที่แตกต่างกัน

Live ไม่มี character โลกไม่จำ

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ Facebook live ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่กำลังมาแรง แต่จะทำอย่างไรให้น่าสนใจนั่นเป็นเรื่องยาก การทำคอนเทนต์ให้ปังและสร้างคาแรคเตอร์ให้กับร้านค้าก็เป็นอีกทางที่จะสามารถช่วยให้เรามีตัวตนบน Facebook ได้ ก่อนไลฟ์เราควรทำความเข้าใจในสินค้าของเราให้ดีเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของฟังก์ชั่นการใช้งานไปจนถึงสินค้าตัวนี้ให้ความรู้สึกอย่างไรต่อเรา ที่สำคัญเลยคือต้องจริงใจต่อลูกค้า “ไม่ขายเกินจริง” เราก็จะสามารถมัดใจลูกค้าของเราได้

การรักษาฐานลูกค้าให้คงอยู่กับเรา

หลังจากมีการซื้อขายกันแล้วลำดับต่อมาคือการจัดเก็บหรือรักษาลูกค้า โดยการแบ่งประเภทของลูกค้าเป็นกลุ่มต่างๆ ว่าแต่ละกลุ่มควรไปอยู่กับคอนเทนต์แบบไหน ซึ่งตลาดของ Digital Marketing ในปัจจุบันมีหลากหลายเครื่องมือที่จะช่วยแบ่งกลุ่มของลูกค้าแต่เครื่องมือที่ตรงและได้ประสิทธิภาพมากที่สุดโดนเฉพาะ SME ในประเทศไทย คือ RFM Model ซึ่ง RFM Model นี้จะวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย โดยแบ่งจากลูกค้าซื้อล่าสุดเมื่อไหร่ ซื้อเท่าไหร่ และซื้อมากแค่ไหน จากนั้นเราก็จะสามารถส่งคอนเทนต์หรือสินค้าพิเศษไปยังกลุ่มนั้นๆ ได้อย่างเหมาะสมตรงกลุ่มเป้าหมาย เท่านี้ก็จะสามารถมัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด