สร้างเงินล้านจากมือถือเครื่องเดียว

และเคล็ดลับความปังฉบับมือโปร

วันที่ 23 มิถุนายน 2564 นี้ เวลา 14:30 น.

ลงทะเบียนเพื่อรับชมวิดีโอแบบเต็มรูปแบบและ
รับส่วนลดในการสมัครแพ็คเกจไปเลย 20%

Shoplus live 3

วิธีสร้างเงินล้านจากมือถือเครื่องเดียว

การที่ธุรกิจประสบความสำเร็จในการขายออนไลน์ประกอบไปด้วยหลายปัจจัย ซึ่งอย่างหลายแบรนด์ที่เค้าประสบความสำเร็จเพราะว่า สินค้ามีคุณภาพ นำเทรนแฟชั่น เราต้องหาจุดเด่นของตัวสินค้าของเรา และเริ่มมองหาช่องทางการขายใหม่ๆที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น จากหน้าร้าน ข้อเสีย ค่าเช่า ค่าดูแล แต่ขายของออนไลน์ไม่มีค่าใช้จ่ายตรงนี้ ซึ่งเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่กลุ่มใดกลุ่มนึง อีกทั้งมีการจัดการออเดอร์ที่ดี มีการบริการหลังการขายที่ดีก็จะทำให้ลูกค้าติดเรามากขึ้นนั่นเอง  

การทำงานผ่านมือถือเครื่องเดียว หรือการขายของออนไลน์เป็นอีกด้านของธุรกิจที่น่าจับตามองอย่างมากในตอนนี้และปัจจัยที่สำคัญอย่างมากก็คงจะหนีไม่พ้นผู้ช่วยหลังบ้าน หรือเครื่องมือในการจัดการระบบตอบรับอัตโนมัติให้กับทุกร้านค้านั่นเอง สำหรับมือใหม่บนตลาดออนไลน์

เคล็ดลับความปังฉบับมือโปร กับ 9 สิ่งที่ไม่ควรทำ ถ้าอยากได้เพจร้านค้าออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ

สมัยนี้ไม่ว่าใครๆ ก็อยากให้เพจร้านค้าของตัวเองกลายเป็นเพจที่มีชื่อเสียงกันทั้งนั้น เพราะว่าเพจร้านค้าก็เป็นเหมือนหน้าร้านที่ยิ่งมีผู้ติดตามมากๆ ก็เท่ากับว่ามีลูกค้ามาก ซึ่งในการแข่งขันบนโลกออนไลน์สมัยนี้ที่ค่อนข้างสูง หลายๆร้านอาจจะรู้สึกท้อใจกับการที่โปรโมทร้านยังไงยอดผู้ติดตามร้านก็ยังไม่ขึ้นซักที เรามี 9 สิ่งที่ไม่ควรทำ สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ มาให้ทุกคนได้ลองเช็คลิสต์กันว่าได้พลาดตรงไหนไปหรือเปล่า 

1.ใส่ข้อมูลไม่ครบถ้วน

ข้อมูลส่วนตัวของร้านควรมีบนหน้าเพจให้ครบถ้วน สำคัญมาก !!! เช่น เบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ หรือแม้กระทั่งช่อง “เกี่ยวกับเรา” บนหน้าเพจ น่าจะเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายๆคนมองข้าม เพราะคิดว่าคงไม่มีความสำคัญมาก แต่อันที่จริงแล้วข้อมูลตรงนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เลย เพราะข้อมูลตรงนี้จะช่วยวัดความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าของเรา และยิ่งทำให้เพจร้านค้าของเราดูเป็นมืออาชีพขึ้นอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมเพิ่มข้อมูลในเพจร้านค้าของทุกคนกันนะ!

2.  ไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วม

อย่างที่เราทราบกันดีว่า Facebook  เป็นเหมือนสถานที่ที่ทุกคนจะมาร่วมแชร์ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งเพจร้านค้าของเราก็เป็นเหมือนหนึ่งสถานที่ที่ทุกคนจะมาร่วมแชร์ข้อมูลและความคิดเห็นเหมือนกัน พราะฉะนั้นสิ่งที่เราโพสต์ลงไปในเพจร้านค้าก็ควรจะมีความหลากหลาย ไม่ใช่แค่การลงสินค้าเพื่อขายของอย่างเดียวเท่านั้น อาจจะมีการลงคอนเท้นต์ตามกระแส หรือเป็นการโพสต์ถามความคิดเห็นของลูกค้าของเราก็ได้ ถ้าเรามีการลงคอนเท้นต์แบบนี้บ่อยๆ ก็จะเป็นการช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับผู้ที่ติดตามร้านค้าของเราและทำให้เพจมีผู้ติดตามและลูกค้าเยอะขึ้นนั่นเองค่า

3.ลงแต่รูปภาพสินค้าไม่พอ ต้องมีวิดีโอด้วย!

นอกจากที่คอนเท้นต์ควรจะมีความหลากหลายแล้ว ทุกคนทราบมั้ยคะว่าการโพสต์สื่อที่ต่างกันก็มีผลต่อการติดตามเพจที่แตกต่างกันด้วยนะ! โดยสถิติของ Facebook บอกเอาไว้ว่า การลงวิดีโอ สามารถเพิ่มยอด engagement ได้มากกว่าการโพสต์รูปภาพหรือข้อความเฉยๆ ถึง 135% เลยทีเดียว! โดยวิดีโอที่เราจะโพสต์ลงเพจของเราก็อาจจะเป็นวิดีโอสาธิตการใช้สินค้า หรือเป็นการวิดีโออื่นๆที่มีการกล่าวถึงสรรพคุณของสินค้าก็ได้ ซึ่งการลงวิดีโอก็ควรจะเป็นการอัพโหลดลงบน Facebook โดยตรง เพราะอัลกอริทึมของ Facebook จะทำให้วิดีโอของเราถูกมองเห็นมากกว่าการแชร์ลิงก์จากเว็บไซต์อื่นๆนั่นเอง

4. การที่คุณไม่เคยลงโฆษณาเลย

ช่องทางที่ลงโฆษณาออนไลน์แล้วเห็นผลดีที่สุดก็คือ Facebook นั่นเองค่ะคุณผู้ชมเพราะ Facebook เป็นช่องทางที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดบนโลกออนไลน์ แถมยังมีตัวช่วยในการลงโฆษณาที่ใช้งานง่ายมากๆ และราคาไม่แพงถ้าเทียบกับการทำการตลาดอื่นๆอีกด้วย 

5. นานๆลงโพสต์ที เดี๋ยวมาเดี๋ยวหาย 

น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน ลูกค้าเห็นโพสเราทุกวัน ก็ต้องมีใจอ่อนซื้อสินค้าเราเข้าซักวันสิ! การโพสต์บ่อยๆเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆในการทำเพจร้านค้าของเราให้ดังเลยนะคะ ทางที่ดีเราควรจะลงโพสต์ขาย สินค้าของเราทุกวัน วันละประมาณ 2-3  โพสต์ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าของเราบ่อยๆ และ Facebook ก็จะช่วยดันโพสต์ของเราให้ไปอยู่ส่วนต้นๆของฟีดผู้ติดตามเพจเราด้วย แต่ก็ไม่ควรโพสต์ถี่เกินไปเพราะอาจจะทำให้ผู้ติดตามเกิดรำคาญและเลิกติดตามเพจเราไปในที่สุด

6. ทำเพจให้ลึกลับซับซ้อน!

บางเพจตั้งชื่อยากมาก พิมพ์ยากมาก หรือยาวมากจนบางทีค้นหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ แบบนี้ก็อาจทำให้เกิดความยุ่งยาก ทำให้คนไม่อยากติดตามเพจของเราต่อไป สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ควรจะตั้งชื่อเพจให้ลูกค้าค้นหาได้ง่ายๆ โดยที่เราอาจจะเริ่มต้นจากการเพิ่มชื่อสินค้าที่เราขายลงไปในชื่อเพจ เพื่อที่หากลูกค้าต้องการตามหาร้านขายสินค้าชนิดนี้ก็จะได้พิมพ์ชื่อลงไปในช่องค้นหาของ  Facebook แล้วเจอเพจของเราทันที

7. ลองแจก Giveaway ดูบ้าง

ใครๆก็ชอบของฟรี เพราะฉะนั้นการดึงดูดผู้บริโภคด้วยของฟรีเนี่ยถือเป็นวิธีนึงที่ใช้กี่ทีก็ได้ผล โดยที่เราอาจจะใช้เกมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการ Giveaway ให้คนแชร์โพสต์ กดไลก์เพจของเรา อย่างที่พูดไปในข้อที่ 2 ว่าเราควรทำให้ผู้ติดตามของเรารู้สึกมีส่วนร่วม เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีนั่นเอง

8. ทำแต่ Content เดิมๆ

ลงแต่อะไรเดิมๆทุกวันคงเบื่อน่าดู  เราแนะนำให้ลองเปลี่ยนวิธีไม่ให้ซ้ำจำเจ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบโพสต์ หรือสื่อที่ลง รวมไปถึง Mood and Tone ลองลงเป็นโพสที่สามารถทำให้คนดูรู้สึกอยากแชร์โพสต์นั้นๆ โดยอาจจะทำเป็นมีม (Meme) หรือวิดีโอล้อเลียน (Parody) ที่มีการขายสินค้าของเราเข้าไปในคอนเท้นต์และถ้าคนชอบถูกแชร์จนไวรัล รับรองว่าเพจของเราจะมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นแน่นอน

9. ไม่เคยลองไลฟ์ขายสินค้าเลย!

ข้อนี้สำคัญมาก! จะขายสินค้าออนไลน์ แต่ไม่เคยไลฟ์ขายสินค้าเลย! ในปี 2021 นี้ การไลฟ์ขายสินค้า หรือ Live Commerce

  • เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงและได้รับการตอบรับอย่างดีมากๆ 
  • เพราะเป็นช่องทางการขายสินค้าแบบ Real-Time ที่ลูกค้าและเราจะได้มีตอบโต้กันในเวลาเดียวกัน 
  • มีการสาธิตสินค้าหรือได้เห็นสินค้าในขนาดจริง ต่างจากการดูรูปที่จะเทียบขนาดได้ยาก 
  • และดีกว่าการตอบแชทที่อาจจะไม่สามารถสื่อสารได้ทันท่วงทีนั่นเอง

ช่วงเวลาการไลฟ์ที่แนะนำคือ ช่วงเวลา 19.00 น. ถึง 22.00น. ของทุกวัน คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไลฟ์ เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่เลิกงานแล้ว กำลังเดินทางกลับ จะเป็นช่วงที่คนรับชมไลฟ์สดมากที่สุด โดยระยะเวลาในการไลฟ์จะอยู่ที่ประมาณ 1 ชม. เป็นอย่างต่ำและเพิ่มระยะเวลาจากยอดผู้เข้าชม และรีเควสจากลูกค้าแต่ไม่ควรนานเกิน 2 ชม.