
เทคนิคสร้างคอนเทนต์ปัง!
วันที่ 25 สิงหาคม 2564 นี้ เวลา 14:30 น.
ลงทะเบียนเพื่อรับชมวิดีโอแบบเต็มรูปแบบและ
รับส่วนลดในการสมัครแพ็คเกจไปเลย 20%
วันที่ 25 สิงหาคม 2564 นี้ เวลา 14:30 น.
ลงทะเบียนเพื่อรับชมวิดีโอแบบเต็มรูปแบบและ
รับส่วนลดในการสมัครแพ็คเกจไปเลย 20%
แตกต่างจากการโปรโมทโดยใช้วิธีอื่น Influencer marketing จะมีความซับซ้อน และต้องวางแผนค่อนข้างมาก เพราะการใช้ Influencer นั้นไม่เพียงแค่เป็นการโปรโมททั้งนั้น แต่มันจะเป็นถึงการนำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วย ดังนั้นหาก Influencer ไม่ตอบโจทย์แล้วละก็ ภาพลักษณ์ของแบรนด์อาจจะเสียหายได้ แน่นอนว่าจุดมุ่งหมายของ Influencer marketing นั้นมีหลากหลาย แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญของ Influencer marketing คือ การเข้าหากลุ่มลูกค้าของผู้ติดตาม Influencer นั้นๆ อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่เน้นการขายเกินไป จนทำให้คนดูจะเบือนหน้าหนีเอา ดังนั้นการใช้ Influencer marketing จึงมีความท้าทายตั้งแต่การเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่ถูกต้องเหมาะสมกับแบรนด์ การวางแผน ไปจนถึงวิเคราะห์ผลลัพธ์ล้วนแต่มีความท้าทายหมด
1.ลองเปลี่ยนมาโฟกัสกับ Micro influencer
Micro Influencer คือ คนที่มีฐานผู้ติดตามพอสมควร แต่ยังไม่ถึงกับดังเปรี้ยงปร้าง แต่ว่ากลุ่ม Influencer เหล่านี้กลับมีความสามารถในการโน้มน้าวใจได้เป็นอย่างดี เพราะอะไรนะหรือ เพราะว่า Micro Influencer ได้สร้างชื่อเสียง และความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับกลุ่มผู้ติดตามของพวกเขา แฟนคลับของ Micro Influencer จะรู้สึกเป็นธรรมชาติ และเชื่อมั่นมากกว่า การโปรโมทของคุณจะไม่ดูเหมือนเป็นการโฆษณาเกินไป การโปรโมทผ่าน Micro Influencer จะทำให้สินค้าหรือข้อมูลของคุณน่าเชื่อถือมากยิ่งขั้น ดังนั้นคุณไม่จำเป็นจะต้องจ้าง celebrity คนดังที่มีค่าใช้จ่ายสูงลิบลิ่ว ก็สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน ผู้ติดตามของเหล่า Micro Influencer จะค่อนข้าวเชื่อในสินค้าหรือบริการที่ Micro Influencer ได้แนะนำ เพราะความสัมพันธ์ที่คล้ายคลึงกับเพื่อน
2.ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมมากขึ้น จากโปรโมชั่นการแข่งขัน แจก หรือของรางวัล
แน่นอนว่าลูกค้าส่วนใหญ่ชอบโปรโมชั่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นแทนที่จะโปรโมทผ่าน Influencer แบบเดิมๆ ลองใช้การแจกของรางวัล หรือจัดการแข่งขันเล็กๆ เพื่อเป็นการโปรโมทแบรนด์และกระตุ้นลูกค้าให้อยากมีส่วนร่วมกับแบรนด์ อีกหนึ่งเหตุผลคือ ตัว Influencer เอง ก็ชื่นชอบแคมเปญโปรโมชั่นแนวนี้ เพราะทำให้พวกเขามีปฎิสัมพันธ์กับแฟนคลับได้ดียิ่งขึ้น หรือช่วยพวกเขาเพิ่มฐานแฟนคลับให้มากยิ่งขึ้นไปอีก นี้ก็เสมือนเป็นการสร้าง Win-Win โปรโมชั่น ที่ทั้งแบรนด์ และลูกค้าก็ได้รับประโยชน์ การใช้โปรโมชั่นเหล่านี้ หากเลือกใช้ได้ถูกต้อง ก็อาจจะเพิ่มผลลัพธ์ และประโยชน์ให้กับแบรนด์ได้ดีมากๆ
3.ใช้ช่องทางใหม่ๆ ให้หลากหลายและสร้างสรรค์กว่าเดิม
เดียวนี้ใครๆ ก็ชื่นชอบเนื้อหาที่เคลื่อนไหว และสามารถดูรายละเอียดของได้เหมือนของจริง นอกจากวิดิโอแล้ว เดียวนี้แพลต์ฟอร์มต่างๆ ก็ออกแบบให้สามารถเผยแพร่เนื้อหาได้แบบ Real-time ไม่ว่าจะเป็นทางสตอรี่ IGTV หรือจะเป็นไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ค ก้สามารถดึงความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทางสตอรี่ ก็กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถกระตุ้นยอดขาย และการมีส่วมร่วมกับลูกค้าได้ คุณอาจจะขอให้ Influencer ลองใช้ช่องทางใหม่ๆ เหล่านี้โปรโมทสินค้าและแบรนด์ของคุณ ลองใช้ช่องทางที่หลากหลายขึ้น เพื่อประสบการณ์ที่ใหม่และสร้างสรรค์กว่าการนั่งโพสต์รูปเฉยๆ
4.สร้าง Hashtag # โปรโมทได้กว้างและดีกว่าเดิม
หากคุณอยากจะโปรโมทแบรนด์หรือสินค้าได้กว้างและดีกว่าเดิม ลองร่วมกันกับ Influencer สร้าง hashtag เฉพาะเจาะจงสำหรับแคมเปญของคุณกับ Influencer เพื่อให้ลูกค้าสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียด หรือสินค้าแบบเดียวกันอื่นๆ ได้จาก hashtag นี้ และยิ่งลูกค้ามีการใช้ hashtag นี้มากขึ้นเท่าไหร ก็เหมือนกับการโปรโมทสินค้าหรือแบรนด์ไปได้อีกมากๆ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อีกเยอะ โดยที่ Influencer ก็ชื่นชอบการโปรโมทแนวนี้เช่นกัน เพราะพวกเขาก็เสมือนได้โปรโมทโปรไฟล์ของตัวเองไปในตัวเลย
5.รีวิวแบบละเอียด กระตุ้นยอดขายได้ดียิ่งขึ้น
ยิ่ง Influencer สามารถรีวิวสินค้าหรือบริการของแบรนด์คุณได้อย่างละเอียดแค่ไหน ก็เหมือนเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจมากขึ้นเท่านั้น ลูกค้าจะรู้สึกเชื่อและวางใจ แน่นอนว่าการตัดสินใจซื้อของก็จะง่ายขึ้นตาม เพราะพวกเขาได้รับรายละเอียดและความรู้ครบถ้วน ดังนั้นจึงรู้สึกเชื่อมั่น และจริงใจพอที่จะเชื่อใจแบรนด์และสินค้า ยกตัวอย่างเช่น คุณทำแบรนด์เครื่องสำอาง และใช้การโปรโมทแบบ Influencer แทนที่จะใช้การโพสต์รูปสินค้าพร้อมแท็กทางร้านเฉยๆ คุณอาจจะลองประสานให้ทาง Influencer รีวิวสี และเนื้อสัมผัสอย่างละเอียด ลงในช่องทางสตอรี่ และรูปภาพในหน้าเพจหลัก
6.แคมเปญตามกระแส Influencer แฮปปี้ ลูกค้าก็ต้องอยากได้
ความท้าทายของ Influencer marketing นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ของฝั่งแบรนด์เท่านั้นนะ แต่ฝั่งของ Influencer ก็มีความยากไม่แพ้กัน เพราะต้องนำเสนอข้อมูลให้ลูกค้าโดนใจที่สุด เพราะฉะนั้นทั้งคู่จึงจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน เราจึงขอเสนอไอเดียแจ่มๆ อย่างทำโปรโมชั่น หรือสินค้าให้เข้ากับกระแส ฤดู หรือเทศกาล ณ ตอนนั้น เช่น โปรดับร้อนซัมเมอร์ แพ็กเกจจิ้งรับตรุษจีน เป็นต้น เพื่อให้ Influencer เองสามารถนำเนื้อหาไปโปรโมทได้อย่างเต็มที่ นอกจากจะอินเทรนด์สุดๆ ยังแปลกใหม่ ชวนให้ลูกค้าอุดหนุนอีกด้วย
7.เปิดรับไอเดียใหม่ๆ และอย่าปิดกั้นความคิดของ Influencer
Influencer แต่ละคนมักจะมีสไตล์ไม่เหมือนกัน นับตั้งแต่ การพูด ไปจนถึงรูปแบบการนำเสนอเนื้อหา และหากคุณมั่นใจและคัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดีว่า Influencer คนนี้แหละ ที่เหมาะสมกับคาแรคเตอร์ของแบรนด์คุณที่สุด ดังนั้นคุณไม่ควรไปปิดกั้นรูปแบบเนื้อหาที่อยากให้ Influencer นั้นๆ โพสต์ เช่น ร่างสคริปต์แคปชั่น แต่งรูป และข้อจำกัดอื่นๆ อีกมากมาย เพราะหากว่าสไตล์ของ Influencer นั้นๆ เปลี่ยนไป แฟนคลับอาจจะสามารถรู้ได้ทันที อีกข้อสำคัญคือ หากคุณต้องการจะเจาะกลุ่มแฟนคลับของ Influencer เขาย่อมรู้ดีสุด ว่าแฟนคลับของเขาชื่นชอบแบบไหน และนำเสนออย่างไรจึงจะโดนใจนั้นเอง
8.มีโค้ดเฉพาะ หรือโปรโมชั่นพิเศษ
นี้เป็นอีก 1 ไอเดียที่สามารถกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี เพราะลูกค้าจะรุ้สึกถึงสิทธิพิเศษที่พลาดไม่ได้นั้นเอง เรียกได้ว่าหลังจากเห็น Influencer แล้วเกิดความรู้สึกอยากได้ ก็สามารถนำโค้ดไปใช้ได้ทันที และจะแอบมากระซิบบอกว่า หากคุณสามารถทำโค้ดเฉพาะให้แก่ Influencer แต่ละคนให้แตกต่างกัน และสามารถเช็คได้ว่ายอดขายนี้มาจาก Influencer คนไหน ก็สามารถตรวจผลตอบรับได้เลยว่า Influencer คนไหนที่สามารถกระตุ้นให้ลูกค้ามาซื้อของกับคุณได้ดีที่สุด เผื่อเฝ้นหาว่าแบรนด์ของคุณเหมาะกับ Influencer คนไหนที่สุดได้ง่ายๆ และแม่นยำเลย
9.จัดทำสินค้าร่วมกับ Influencer แบบ limited edition สุดเก๋
หากแบรนด์ของคุณพร้อมที่จะก้าวสู่เสต็ปต่อไป ก็คือการทำสินค้าร่วมกับ Influencer เลย นอกจากจะเพิ่มสินค้าโดยใช้ไอเดียสร้างจากทั้งตัว Influencer และแบรนด์เอง สินค้าชนิดนี้จะเป็น limited edition หรือไม่ก็ได้ เพราะมันจะทำให้ทั้งสินค้าและแบรนด์ของคุณดูน่าสนใจขึ้นมากๆ ชัวร์ได้เลยว่า ลูกค้าจะต้องอยากได้สินค้าที่ไอดอลของพวกเขาเป็นคนร่วมคิดค้นแน่นอน เพราะฉะนั้นการทำสินค้าร่วมกับ Influencer ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าพิจารณาเลย
10.ตรวจวัดผลตอบรับหลังใช้ Influencer เสมอทุกครั้ง
เช่นเดียวกับการตลาดออนไลน์แบบอื่นๆ การวัดผลก่อนและหลังสำคัญมาก เพราะคุณสามารถเช็คถึงประสิทธิภาพของ Influencer ของคุณ และคุณสามารถเข้าใจและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ดีและมีประสิทธิภาพกว่าเดิม หากมันประสบความสำเร็จมากๆ ก็สามารถนำไปปรับใช้กับแคมเปญหน้าก็ได้ โดยเกณฑ์การวัดก็มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับว่าจุดมุ่งหมายของ Influencer marketing ของคุณคืออะไร ไม่ว่าจะเป็น การมีส่วนร่วมของลูกค้า (Engagement rate) จำนวนผู้เข้าชม (Traffic) หรือจะเป็นยอดขาย ที่หลายๆแบรนด์ก็ใช้เกณฑ์นี้เป็นตัววัดหลัก